การบำรุงรักษาและตรวจสอบ สารทำความเย็นในระบบ Chiller

ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ ระบบทำความเย็น (Cooling System) เช่น ระบบชิลเลอร์ (Chiller) สำหรับอาคาร โรงงานผลิตอาหาร เครื่องดื่ม หรืออุตสาหกรรมยา “สารทำความเย็น” หรือ Refrigerant ถือเป็นหัวใจของการทำงานทั้งหมด เพราะเป็นตัวกลางในการดูดซับและถ่ายเทความร้อน หากสารทำความเย็นเสื่อมคุณภาพ หรือมีการรั่วไหลแม้เพียงเล็กน้อย จะส่งผลโดยตรงต่อ ประสิทธิภาพการทำความเย็น พลังงานที่ใช้ และความปลอดภัยของระบบ

วันนี้ Premium Equipment & Engineering จะพาท่านมาทำความเข้าใจว่า “สารทำความเย็น” มีบทบาทสำคัญอย่างไรในระบบ Chiller และการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้อย่างไร

การบำรุงรักษาและตรวจสอบสารทำความเย็นในระบบ Chiller

สารทำความเย็นในระบบ Chiller คืออะไร?

สารทำความเย็น (Refrigerant) เป็นของเหลวหรือก๊าซที่ใช้ในการถ่ายเทความร้อนในระบบ Chiller โดยจะหมุนเวียนภายในวงจรการทำงาน ผ่านอุปกรณ์หลัก 4 ส่วน ได้แก่ Compressor, Condenser, Expansion Valve และ Evaporator

ในกระบวนการนี้ สารทำความเย็นจะดูดซับความร้อนจากน้ำที่อยู่ในระบบ ทำให้น้ำเย็นลงก่อนส่งไปยังเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนต่าง ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิที่ต้องการในกระบวนการผลิต

ทำไม “สารทำความเย็น” ถึงต้องตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำ?

แม้ระบบ Chiller จะถูกออกแบบให้ทำงานต่อเนื่องได้ยาวนาน แต่ประสิทธิภาพของมันขึ้นอยู่กับ “ความสมบูรณ์ของสารทำความเย็น” เป็นหลัก เพราะหากสารทำความเย็นรั่วไหล หรือปริมาณลดลงจากค่ามาตรฐาน จะเกิดผลกระทบดังนี้:

  • อุณหภูมิความเย็นไม่ถึงจุดที่กำหนด ทำให้กระบวนการผลิตหรือระบบปรับอากาศไม่เสถียร
  • Compressor ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและมีความเสี่ยงต่อการเสียหาย
  • ประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อนลดลง เพราะความดันและอัตราการไหลของสารทำความเย็นไม่คงที่
  • สิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบ หากมีการรั่วของสารทำความเย็นประเภทที่มีค่า GWP (Global Warming Potential) สูง

ดังนั้น การตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของสารทำความเย็นในระบบชิลเลอร์จึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการ Preventive Maintenance (PM) ที่ช่วยลดความเสียหายก่อนเกิดขึ้นจริง

ขั้นตอนการบำรุงรักษาและตรวจสอบ สารทำความเย็นในระบบ Chiller

การตรวจสอบสารทำความเย็นควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือเฉพาะทาง ซึ่งขั้นตอนหลักประกอบด้วย

1. ตรวจสอบแรงดันและอุณหภูมิของระบบ (Pressure & Temperature Check)

วัดค่าความดันฝั่งดูด (Suction) และฝั่งจ่าย (Discharge) ของ Compressor เพื่อประเมินว่าระบบทำงานในสภาวะปกติหรือไม่ หากแรงดันผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงการรั่วของสารทำความเย็น

2. ตรวจหารอยรั่วของสารทำความเย็น (Leak Detection)

ใช้เครื่องตรวจจับการรั่ว (Leak Detector) หรือสารทำปฏิกิริยา (UV Dye) เพื่อค้นหาจุดที่มีการรั่วซึม เช่น บริเวณข้อต่อ วาล์ว หรือคอยล์ของเครื่องระเหยและคอนเดนเซอร์

3. ตรวจสอบคุณภาพของสารทำความเย็น (Refrigerant Analysis)

สารทำความเย็นที่ใช้งานมานานอาจปนเปื้อนน้ำมัน ความชื้น หรือกรด การนำตัวอย่างไปวิเคราะห์คุณภาพช่วยให้รู้ว่าสารนั้นยังสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่

4. เติมสารทำความเย็นตามค่ามาตรฐาน (Recharging)

หากพบว่าปริมาณสารลดลง ควรเติมด้วยชนิดเดียวกันตามค่าที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อป้องกันปัญหาการทำงานไม่สมดุลของระบบ

5. ตรวจสอบน้ำมันคอมเพรสเซอร์ (Compressor Oil Check)

น้ำมันคอมเพรสเซอร์ที่ปนเปื้อนหรือมีค่าความเป็นกรดสูง มักบ่งชี้ถึงปัญหาภายในระบบ เช่น การรั่วของสารทำความเย็นหรือการสึกหรอของชิ้นส่วน

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) คือคำตอบ

การตรวจสอบสารทำความเย็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบำรุงรักษาระบบ Chiller ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งควรทำควบคู่กับการตรวจสอบอุปกรณ์อื่น เช่น

  • ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์และอีวาพอเรเตอร์
  • ตรวจสอบแรงดันน้ำและอัตราการไหลในระบบ
  • ตรวจสอบระบบควบคุมไฟฟ้าและอุปกรณ์เซนเซอร์
  • ตรวจสอบอุณหภูมิและเสียงของคอมเพรสเซอร์

ประโยชน์ของการตรวจสอบสารทำความเย็นอย่างสม่ำเสมอ

  • ประหยัดพลังงานไฟฟ้า ระบบที่มีสารทำความเย็นสมบูรณ์จะใช้พลังงานน้อยลง
  • ลดการสึกหรอของอุปกรณ์หลัก โดยเฉพาะ Compressor ที่ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
  • ยืดอายุการใช้งานของระบบ Chiller
  • ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมระยะยาว
  • ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากการรั่วไหลของสารทำความเย็นที่มีค่า GWP สูง

สารทำความเย็น (Refrigerant) อาจเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของระบบ Chiller แต่มีผลต่อทั้ง ประสิทธิภาพ พลังงาน และความปลอดภัย ของระบบทั้งหมด การตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกอุตสาหกรรม

และหากท่านกำลังมองหาผู้ให้บริการด้าน การบำรุงรักษาและตรวจสอบระบบทำความเย็นแบบครบวงจร ที่เชื่อถือได้ Premium Equipment & Engineering พร้อมให้บริการตั้งแต่การตรวจสอบสารทำความเย็น การทำ Preventive Maintenance ไปจนถึงการปรับปรุงระบบ Chiller ให้ประหยัดพลังงานและมีอายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น สามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

รับชมวีดีโอเพิ่มเติมได้ที่ : Youtube Premium Equipment & Engineering

📌 สอบถามเพิ่มเติมที่::

📲 Line OA : @premiumpr หรือ https://lin.ee/3rDO9VSSV

📞 Tel : (02) 919-8900

🌏 WEBSITE :https://www.premium.co.th

⏰ เวลาทำงาน :  จันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-17:30